เปรียบเทียบ 4 ระบบกรองน้ำ: RO, ROUV, UF และ Nano ต่างกันอย่างไร?

การเลือกเครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดต้องเข้าใจระบบการกรองแต่ละแบบ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องน้ำดื่มสะอาดได้อย่างแท้จริง

มารู้จักกับ 4 เทคโนโลยีกรองน้ำหลัก ๆ ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบันกัน

1. ระบบ RO (Reverse Osmosis)
หลักการ: ใช้แรงดันน้ำผ่านเยื่อเมมเบรนที่มีรูพรุนละเอียดเพียง 0.0001 ไมครอน
ประสิทธิภาพ: กรองได้ละเอียดที่สุดในบรรดาทุกระบบ กรองได้ถึงระดับโมเลกุล กำจัดได้ทั้งสารเคมี โลหะหนัก แบคทีเรีย ไวรัส และแม้กระทั่งแร่ธาตุต่าง ๆ
ผลลัพธ์: ได้น้ำบริสุทธิ์ 100% (อาจมีรสชาติจืดสนิท) และอาจจะมีน้ำทิ้งสูง และจำเป็นต้องใช้ปั๊มน้ำช่วยเพิ่มแรงดัน

 2. ระบบ ROUV (RO + UV)
หลักการ: คือการรวมเทคโนโลยี RO และ UV เข้าไว้ในเครื่องเดียว
ประสิทธิภาพ: RO กรองเอาสิ่งเจือปนทั้งหมดออกได้จนเป็นน้ำบริสุทธิ์ ตามด้วย UV ที่เป็นเหมือนการ ฆ่าเชื้อขั้นสุดท้าย เพื่อรับประกันความปลอดภัยของน้ำก่อนการบริโภค
ผลลัพธ์: ความบริสุทธิ์สูงสุด ปราศจากทั้งสารเคมีและเชื้อโรคทุกชนิด ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผลลัพธ์ด้านความสะอาดที่เหนือกว่า แต่มีราคาและค่าบำรุงรักษาสูงที่สุด

3. ระบบ UF (Ultrafiltration)
หลักการ: ใช้เส้นใยเมมเบรนที่มีรูพรุนขนาด 0.01 ไมครอน
ประสิทธิภาพ: กรองแบคทีเรียและตะกอนขนาดเล็ก ออกได้ทั้งหมด แต่จะ ยังคงแร่ธาตุ ที่มีประโยชน์บางส่วนไว้ในน้ำได้
ผลลัพธ์: ได้น้ำสะอาด พร้อมคุณค่าแร่ธาตุ แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสบางชนิด หรือสารเคมีที่ละลายในน้ำได้

4. ระบบ Nano (Nanofiltration)
หลักการ: อยู่ระหว่าง RO และ UF ความละเอียดที่สามารถกรองได้ถึง 0.001 ไมครอน
ประสิทธิภาพ: กำจัดไวรัส สารแขวนลอย และสารเคมีบางส่วนได้ แต่ คงแร่ธาตุ ที่เป็นประโยชน์ไว้ได้มากกว่าระบบ RO
ผลลัพธ์: น้ำสะอาด ปลอดภัย และยังคงแร่ธาตุสำคัญไว้ แต่ประสิทธิภาพการกำจัดความกระด้างและสารเคมีอาจไม่เท่า RO

ดังนั้นแล้วหากต้องการน้ำสะอาดและบริสุทธิ์ที่สุด ควรเลือก RO หรือ ROUV แต่หากต้องการน้ำที่สะอาดและยังมีแร่ธาตุอยู่ ควรเลือก UF หรือระบบกรองหลายขั้นตอนที่มี UV เป็นขั้นตอนสุดท้าย